สตง.เล็งสอบงบรถไฟฟ้า-รถเมล์ฟรี ชี้ไม่ช่วยจูงใจคนใช้รถน้อยลง

สตง.เตรียมสอบงบมาตรการขึ้นรถไฟฟ้า-รถเมล์ฟรี ทำให้รถในกรุงฯลดลงตามเป้าจริงหรือไม่ ชี้คนไม่มีรถแห่ไปใช้บริการแน่น ไม่ช่วยจูงใจคนใช้รถน้อยลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากกรณีรัฐบาลมีมาตรการให้ประชาชนโดยสารรถฟฟ้าและรถเมล์ฟรี เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เริ่มวันที่  25 ม.ค. – 31 ม.ค. 2568 โดยจะใช้งบกลางจ่ายชดเชยให้กับบริษัทผู้ให้บริการเดินรถ ซึ่งในช่วงแรกการกระทรวงคมนาคม ตั้งงบประมาณไว้ที่ 140 ล้านบาท แต่ต่อมาได้เพิ่มเป็น 329.82 ล้านบาท โดยจะใช้งบกลาง 190.41 ล้านบาท แบ่งจ่ายให้กับ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 51.7 ล้านบาท และบีทีเอส 138.4 ล้านบาท ส่วนที่เหลือให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ใช้เงินรายได้ของ รฟม.ดำเนินการ ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะเสนอของบประมาณในที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาวันที่ 4 ก.พ. 2568

สุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลต้องการให้คนใช้รถยนต์ส่วนตัวลดลง เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 จึงต้องมีมาตรการเข้ามาชดเชยให้ แต่ไม่มีอะไรฟรี เพราะการให้ขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรีนั้น ต้องจ่ายด้วยเงินของแผ่นดินที่มาจากภาษีประชาชน เพื่อชดเชยให้กับคนที่ใช้รถยนต์ที่เป็นต้นเหตุของฝุ่นเดินทางแทนด้วยรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี ดังนั้นจะต้องมีการตรวจประเมินในงบประมาณปี 68 ว่าใช้เงินแล้วทำให้จำนวนรถลดลงจริงหรือไม่

“รถเมล์ฟรี รถไฟฟ้าฟรี ไม่ได้ฟรีครับ คือไม่ได้จ่ายจากเรา แต่จ่ายจากเงินของแผ่นดิน ซึ่งเป็นเงินของประชาชนทั้งชาติ”

อย่างไรก็ตาม หากคนไม่สามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้ ก็คงกลับไปใช้รถยนต์ตามเดิม เพราะปกติในช่วงที่รถไฟฟ้าไม่ฟรีก็มีผู้โดยสารจำนวนมากอยู่แล้ว เมื่อเปิดให้ฟรีก็จะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ แต่พากันออกมาใช้บริการรถไฟฟ้าฟรี จึงอยากประชนสัมพันธ์ให้คนในกรุงเทพฯ ที่ไม่ความจำเป็นอย่ามาออกเดินทาง เพื่อให้คนที่มีความจำเป็นได้ใช้รถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี

รัฐมนตรีบอกว่าจากการสำรวจในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา จำนวนรถยนต์ลดลง แต่ตนคิดว่าจะสามารถลดลงได้มากกว่านี้ หากประชาชนขับรถยนต์ออกจากบ้านแล้วมีที่จอดรถให้ และขึ้นรถไฟฟ้าได้สะดวกสบายโดยที่ไม่มีผู้โดยสารเนืองแน่น เชื่อว่าคนที่ใช้รถยนต์จะโดยสารรถไฟฟ้ามากขึ้นแน่นอน

อย่างไรก็ตาม สตง.จะมีการตรวจสอบการใช้งบประมาณหลังจากสิ้นสุดมาตรการนี้ โดยจะต้องยึดหลักว่างบประมาณที่ใช้มีความเหตุสมผล และทำได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้หรือไม่

รองผู้ว่าการ สตง. ระบุอีกว่า เงินที่รัฐบาลใช้เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หากดำเนินการตามที่ตนได้แนะนำไปข้างต้นก็จะประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ หากประชนชนสงสัยในการใช้งบประมาณของรัฐบาล สตง.จะต้องสอบถามว่าเงินที่ใช้ไปกับมาตรการมีตัวชี้วัดอะไรและผลออกมาเป็นอย่างไร แต่ต้องให้รัฐบาลใช้เงินกับมาตรการดังกล่าวจนเสร็จก่อนถึงจะประเมินได้ ซึ่งตัวชี้วัดของมาตรการนี้ คือ การจูงใจประชาชนไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว หันให้ไปขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรีแทน เพื่อช่วยลดการปล่อยควันจากรถยนต์

แต่ในช่วงระหว่างนี้หากผู้ว่าการ สตง. เห็นว่ามีข้อสังเกตก็สามารถถามก่อนได้ ว่ามาตรการที่ทำมา 7 วัน ช่วยให้สถานการณ์ฝุ่นดีขึ้นไหม และหากดีขึ้นจริงจะขยายเวลามาตรการออกไปใช่หรือไม่

อย่างไรก็ตามวันนี้มีคนกลุ่มหนึ่งใช้รถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรีโดยที่ไม่ได้มีส่วนช่วยลดPM 2.5 แต่กลับสร้างปัญหามากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รัฐบาลดำเนินมาตรการไม่ประสบผลสำเร็จ ดังนั้นรัฐบาลควรจะต้องประชาสัมพันธ์ให้คนกลุ่มนี้อยู่บ้าน และให้คนที่จำเป็นจริง ๆ ได้ใช้รถฟรี สิ่งนี้ที่ สตง.ห่วงใยอยากจะบอกรัฐบาล

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active