หรือ ‘กองทุนอากาศสะอาด’ เขี้ยวเล็บกฎหมาย จัดการฝุ่น-เน้นผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย จะถูกตัดทิ้ง ?

หลัง กรรมาธิการ ฝั่ง ครม. ขอสงวนคำแปรญัตติตัด หมวด 6 “กองทุนอากาศสะอาด” จากร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ หวั่น ค้านมติรับฟังความเห็นประชาชน 93% ที่เห็นด้วย หลักผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย ใช้ไม่ได้จริง

วันนี้ (19 ส.ค. 68) แม้ ร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ.…. จะผ่านการรับฟังความเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไปแล้วเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยพบว่า ประชาชนแสดงความเห็น มีผู้เข้าร่วมแสดงความเห็น 2,604 คน เห็นด้วย 92.31% ไม่เห็นด้วย 4.43% งดออกเสียง 3.35% ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่าง นำผลการรับฟังความคิดเห็นมาพิจารณาอีกครั้งก่อนเสนอ ต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 

แต่ล่าสุดมีกระแสว่า กรรมาธิการจากฝั่งคณะรัฐมนตรี ขอสงวนตัดทั้งหมวด 6 “กองทุนอากาศสะอาด” ออกไป The Active พูดคุยประเด็นนี้กับ รศ.วิษณุ อรรถวานิช อาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีการหารือร่วมกันทุกฝ่าย ใน กมธ. และเชิญผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทุกคนไม่มีใครคัดค้านการมี กองทุนอากาศสะอาด และไม่มีท่านใดขอสงวนคำแปรญัตติ

แต่ล่าสุดกลับมีผู้ขอสงวนตัดหมวดที่ 6 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญออก ในฐานะภาคประชาชน ตั้งข้อสังเกตว่ามีนัยสำคัญอย่างไร เนื่องจากไม่ได้ระบุถึงเหตุผลเชิงวิชาการและหลักคิดของการให้ตัดกองทุนอากาศสะอาดออก 

รศ.วิษณุ ระบุว่า การขอตัดกองทุนอากาศสะอาดออก ยังเท่ากับเป็นการค้านมติของประชาชนจำนวน 2,602 คน ที่ลงความเห็นว่ากองทุนอากาศสะอาดเป็นสิ่งจำเป็นในร่าง พ.ร.บ. ถึง 93% หรือหากมองว่า สามารถใช้ กองทุนสิ่งแวดล้อม เดิมได้ แต่จริง ๆ ประเด็นนี้คณะกรรมาธิการร่วมกับผู้เชี่ยวชาญได้หารือกันหลายครั้ง และพบว่า กองทุนสิ่งแวดล้อมปัจจุบันมีจุดอ่อนหลายด้าน และท้ายสุดคณะกรรมาธิการเกือบทั้งหมดเห็นว่า ควรมีกองทุนอากาศสะอาด

ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อม การตัด กองทุนอากาศสะอาด ซึ่งเป็นหัวใจของการใช้เครื่องมือและมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ ออกจะทำให้กฎหมายไม่สามารถแก้ปัญหามลพิษทางอากาศได้จริง เพราะหลัก “ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย” (Polluter Pays Principle) จะไม่เกิดขึ้นตามหลักการสากลที่ประเทศที่เป็นแบบอย่างที่ดีปรับใช้ จะไม่สามารถช่วยเหลือผู้ก่อมลพิษให้เปลี่ยนผ่านไปสู่การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและอากาศสะอาดได้จริง และจะไม่มีรายได้หมุนเวียนมาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน 

“ถ้าไม่มีกองทุนอากาศสะอาด กฎหมายจะเหลือแค่ชื่อ แต่ไร้กลไกทางการเงิน ผู้ก่อมลพิษจะยังคงลอยนวลต่อไป และคนไทยยังคงต้องเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจ มะเร็ง และโรคร้ายอื่น ๆ จากฝุ่นพิษ PM 2.5 ต่อไป อย่าลืมว่า กองทุนสิ่งแวดล้อมเดิมมีข้อจำกัดมากมาย เช่น พึ่งพางบประมาณแผ่นดิน ทำให้การแก้ปัญหาล่าช้าและไม่ต่อเนื่อง ไม่มีกลไกรับมือฉุกเฉินกับปัญหามลพิษทางอากาศรวมถึงฝุ่นพิษ PM2.5 เงินไม่พอในการแก้ไขปัญหา และมีการบริหารแบบรวมศูนย์ทำให้ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน และที่สำคัญไม่พร้อมสำหรับการนำเครื่องมือและมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ใน ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาดฯ มาใช้”

รศ.วิษณุ อรรถวานิช

รศ.วิษณุ ย้ำว่า การมีกองทุนอากาศสะอาดจึงไม่ใช่ความซ้ำซ้อน แต่คือ การปฏิรูปครั้งสำคัญ ที่จะทำให้ พ.ร.บ. อากาศสะอาดฯ “มีเขี้ยวเล็บจริง” และคืนสิทธิในการหายใจอากาศสะอาดให้คนไทยทุกคน ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนต้องร่วมกันเรียกร้อง #สิทธิหายใจอากาศสะอาด #CleanAirFund #กองทุนอากาศสะอาด

ขณะที่ สมาคมเครือข่ายอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ พร้อมด้วย ภาคีภาคประชาชนทั่วประเทศ ได้แถลงจุดยืน กรณีกองทุนอากาศสะอาด เพื่อสุขภาพกำลังถูกเสนอให้ตีตกโดยคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งที่เป็นกลไกสำคัญที่สุดในการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศและฝุ่นพิษ PM2.5 

โดยอ้างอิงงานวิชาการ ยืนยันแล้วว่า ประเทศไทยต้องสูญเสียความเสียหายทางเศรษฐศาสตร์จาก PM2.5 ปีละกว่า 2 ล้านล้านบาท แต่หน่วยงานหลักกลับมีงบประมาณที่จำกัด ไม่เพียงพอในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

กองทุนอากาศสะอาดฯ จะเป็น กองทุนนอกงบประมาณ ที่ทำให้ ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย ผ่านภาษีสรรพสามิต ค่าธรรมเนียม และค่าชดเชย ไม่ใช่เงินภาษีประชาชนทั่วไป โดยเงินกองทุนจะถูกนำไปใช้เพื่อ

  • เยียวยาผลกระทบสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

  • ดับไฟป่าและป้องกันการเผา

  • ส่งเสริมเทคโนโลยีสะอาดและพลังงานสะอาด

  • ฟ้องร้องคดีมลพิษและก่อมลพิษข้ามแดน

  • สนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน

เครือข่ายฯ ย้ำว่า หากกองทุนอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพถูกตัดออกจากร่างกฎหมาย ก็เท่ากับว่าประชาชนยังคงต้องหายใจฝุ่นพิษและแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่อไปอย่างไม่เป็นธรรม

“เราขอเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรและผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง คืนสิทธิในการหายใจให้ประชาชน ด้วยการไม่ตีตกกองทุนอากาศสะอาดฯ”



The Active รวบรวมเนื้อหาที่อธิบายถึงความสำคัญและความจำเป็นของ “กองทุนอากาศสะอาด” ที่ยึดหลัก ผู้ก่อ คือ ผู้จ่าย 

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active