ปั้นเยาวชนคนทำหนัง ดัน ‘อุตสาหกรรมหนังไทย’ สู่ Soft Power

‘Crayon กลับบ้าน’ และ ‘In the Deep of Flavor จิต รู้ รส’ คว้าภาพยนตร์ยอดเยี่ยม fuse. KIDS Film Festival 2024 พร้อมตั๋วบินดูงาน Soft Power ที่ญี่ปุ่น หวังต่อยอดอุตสาหกรรมหนังในอนาคต

วันนี้ (16 ธ.ค. 67) fuse. KIDS Film Festival 2024 เทศกาลประกวดหนังสั้นของเด็กและเยาวชน มอบ 16 รางวัลให้กับคนทำหนังสั้นซึ่งปีนี้มีหนังสั้นที่ส่งเข้าประกวดมากถึง 922 เรื่อง โดยใน 16 รางวัลนี้มี 2 รางวัลใหญ่ ที่จะมีโอกาสได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมืองแห่ง Soft Power และ Pop Culture ระดับโลก นั่นคือรางวัล Best Film Award (ภาพยนต์ยอดเยี่ยม) ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า และระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า

ผลปรากฎว่า หนังเรื่อง Crayon กลับบ้าน โดย อัครวิทย์ มีนาค ได้รับรางวัล Best Film Award (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) 

“ตื่นเต้นมากของคุณผู้จัดงานที่เห็นในผลงาน Crayon กลับบ้าน ของผม ก็เป็นหนังที่ประเด็นค่อนข้างไกลตัวผมมาก และผมก็ไม่คิดว่าจะอยู่ในจุดนี้ได้  ขอบคุณจริงๆครับ ขอบคุณทีมงาน ทั้งที่อยู่หน้ากองและช่วยกันหลังบ้าน ขอบคุณครอบครัว และแมวที่บ้านผมเป็นกำลังใจที่ดีขอบคุณมากๆ ครับ”

อัครวิทย์ มีนาค 

ส่วน Best Film Award ในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่านั้น หนังที่ได้รางวัลนี้ คือ In the Deep of Flavor  จิต รู้ รส โดย ธนพนธ์ เพ็ญพิมาย   

ผศ.มรรยาท อัครจันทโชติ ภาควิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า มีภาพยนตร์บางเรื่องที่มีประเด็นสื่อสารกับสังคม เช่น The Curtain โดย เปรม ผลิตผลการพิมพ์ ที่ได้รับรางวัล Special Jury Prize โดยเนื้อหาของหนัง พูดถึงการที่คน ๆ หนึ่งหายไปแล้วคนในบ้านไม่ได้มีใครสนใจ 

“ซึ่งมันเป็นสิ่งที่กำลังจะพูดถึงว่าบางครั้งเราหลงลืมมองข้าม เรามองไม่เห็นเด็กในสังคม”

ผศ.มรรยาท อัครจันทโชติ

ภาพ : fuse.film

ส่วนเรื่อง Love Me Love Me เดทอีกทีเดี๋ยวก็รักเอง โดย พิชชานันท์ โอภาส เป็นหนังอีกเรื่องที่ได้รับรางวัล Special Jury Prize โดยหนังเรื่องนี้ พูดถึงโซเชียลมีเดียกับเด็ก ๆ วัยรุ่น และเยาวชน ซึ่งบางคนพยายามที่จะทำให้ตัวเองเป็นคนที่มีชื่อเสียงในโซเชียลมีเดียด้วยวิธีการที่หลากหลาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ สำหรับเทศกาลเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน 

“รู้สึกว่าทุกวันนี้เด็ก ๆ หรือว่าใครหลาย ๆ คนพยายามผูกคุณค่าของตัวเองเอาไว้กับยอดติดตาม ตัวเลขไม่กี่ตัวที่อยู่บนโลกโซเชียล เหมือนยอดติดตามกลายเป็นอาชีพ กลายเป็นตัววัดว่าสังคมยอมรับเรามากแค่ไหนจนบางทีเราหลงลืมความรักจากคนรอบข้าง และหลงลืมการรักตัวเอง ไปค่ะ ก็เลยอยากจะทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะให้ทุกคนที่ได้ดูตระหนักถึงเรื่องนี้กันค่ะ”

พิชชานันท์ โอภาส

ขณะที่ พลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า กระทรวงวัฒนธรรม มีบทบาทสําคัญในการสนับสนุนนโยบาย Soft Power โดยเฉพาะด้านภาพยนตร์ การส่งเสริมเยาวชนรุ่นใหม่ในวันนี้ จะช่วยสร้างรากฐานที่มั่นคงสําหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทยในอนาคต และกระทรวงวัฒนธรรม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการร่วมเป็นส่วนสําคัญ เพื่อสานต่อให้เกิดเทศกาลในอนาคตต่อ

ภาพ : fuse.film

สำหรับ fuse. KIDS Film Festival 2024 เป็นเทศกาลหนังที่ส่งเสริมเยาวชนในการสร้างสรรค์ผลงานสื่อ และต่อยอดความสามารถในระดับนานาชาติ 

แม้เทศกาลภาพยนตร์ fuse. KIDS film festival 2024 ในปีนี้จะผ่านไปแล้ว ในอนาคต ทีมงาน fuse. ระบุว่า จะยังคงร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนพื้นที่ให้เยาวชนพัฒนาทักษะด้านการสร้างสรรค์สื่อ พร้อมทั้งต่อยอดนโยบาย Soft Power ผ่านอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างยั่งยืน

ภาพ : fuse.film

รายชื่อผลงานที่ได้รับรางวัลประจำเทศกาล fuse. KIDS Film Festival 2024

  1. Best Film Award (ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า) – In the Deep of Flavor  จิต รู้ รส โดย ธนพนธ์ เพ็ญพิมาย
  2. Best Film Award (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) – Crayon กลับบ้าน โดย อัครวิทย์ มีนาค
  3. First Runner-Up Award (ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า) บันทึกความดี โดย ดาราวลี คีรีสุขไสว
  4. Second Runner-Up Award (ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า) – Trashure ขยะที่(ไม่)ไร้ค่า โดย ศิวัช เจิมเฉลิม
  5. Special Jury Prize (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) – The Curtain โดย เปรม ผลิตผลการพิมพ์
  6. Special Jury Prize (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) – Love Me Love Me เดทอีกทีเดี๋ยวก็รักเอง โดย พิชชานันท์ โอภาส
  7. Best Animation Film Award (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) – Tune Up โดย ขวัญพิชชา หนูทอง
  8. Best Director Award (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) – อัครวิทย์ มีนาค จาก Crayon กลับบ้าน
  9. Best Performance Award (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) – ครองขวัญ เหาตะวานิช จาก Crayon กลับบ้าน
  10. Best Screenplay Award (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) –  Love Me Love Me เดทอีกทีเดี๋ยวก็รักเอง โดย พิชชานันท์ โอภาส
  11. Best Cinematography Award (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) – Believe อัล-มาน โดย ปรเมษฐ์ สุขพินิจ
  12. Best Cinematography Award (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) – A Man and the Child โดย ณภัทร อุนนะนันทน์
  13. Best Art Direction Award (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) – Believe อัล-มาน โดย สุรยุทธ์ เเดงบุหงา
  14. Best Film Editing Award (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) – In the Meantime ในวันเมื่อวาน โดย ขจร โรจน์ศิริกุล
  15. Best Visual Effects Award (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) – Ji: The Colorful Friend จี้ เพื่อนรักดินสอสี โดย พัสกร พิพรณ์พงษ์, ณัฐฐาพร แก้วพิลา, รัชวัลส์ ธนันท์ธนพนธ์, ฐิติวัชร์ เจียมจิตปิติ และถิรวุษิ จันทะ
  16. Best Recording and Sound Mixing Award (ระดับอุดมศึกษาและมากกว่าหรือเทียบเท่า) – Believe อัล-มาน โดย ธนภัทร อนุฤทธิ์รังสี, นันทชัย ปราณีต

สามารถติดตามชมผลงานที่ได้รับรางวัลหรือผลงานอื่น ๆ ได้ที่เว็บไซต์ https://fuse-film.com


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ซีรีส์วายไทย: บทหนังไปไกล แต่โครงสร้างไทยยังเหมือนเดิม


Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active